แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 43
1
หมอประจำบ้าน: ตาปลา (Corn) - หนังหนาด้าน (Callus)

ตาปลาและหนังหนาด้าน หมายถึง ผิวหนังที่ด้านหนาขึ้นเนื่องจากแรงกดหรือแรงเสียดสีนาน ๆ มักเกิดตรงบริเวณที่มีปมกระดูกนูน ที่บริเวณฝ่าเท้าและนิ้วเท้า

เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป และส่วนใหญ่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่อย่างใด


สาเหตุ

สาเหตุที่พบได้บ่อย คือ การใส่รองเท้าคับแน่นหรือหลวมไม่เหมาะกับเท้า การเดินลงน้ำหนักที่ไม่เหมาะสม หรือการใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้มีแรงกดตรงใต้ฝ่าเท้าหรือนิ้วเท้านาน ๆ จึงเกิดการสร้างเนื้อเยื่อพังผืดแข็ง ๆ ขึ้นมารองรับจุดนั้นแทนเนื้อธรรมดา

ผู้ที่มีนิ้วเท้าผิดปกติ เช่น นิ้วเท้างุ้ม (ดังที่เรียกว่า hammer toe ซึ่งเกิดจากการใส่รองเท้าไม่เหมาะกับเท้านานเป็นแรมปี) มีความเสี่ยงต่อการเกิดตาปลาที่นิ้วเท้า ส่วนผู้ที่มีโครงสร้างของเท้าผิดปกติ เช่น ฝ่าเท้าแบน (flat foot) เป็นต้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดหนังหนาด้าน


อาการ

ตาปลา ผิวหนังด้านหนาเป็นไตแข็ง บางครั้งพบมีการอักเสบแดงของผิวหนังโดยรอบ มักพบที่ด้านบนและด้านข้างของนิ้วเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วก้อย

หนังหนาด้าน ผิวหนังมีลักษณะหนาและด้านกว่าปกติ มีขนาดใหญ่กว่าตาปลา อาจมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 นิ้ว มักพบที่ส้นเท้าและฝ่าเท้าส่วนที่เชื่อมต่อกับนิ้วเท้า บางครั้งอาจเกิดตาปลา (ไตแข็ง) อยู่ตรงกลาง

ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการเจ็บปวดหรือคัน แต่ถ้าเป็นตาปลาขนาดใหญ่อาจทำให้มีอาการเจ็บปวดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาใส่รองเท้า


ภาวะแทรกซ้อน

ถ้าปล่อยไว้ ตาปลาอาจเกิดการอักเสบเป็นแผลและติดเชื้อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยเบาหวาน อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงเป็นอันตรายได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบเป็นหลัก

หากสงสัยเป็นโรคผิวหนังชนิดอื่น (เช่น หูด ซิสต์) อาจทำการตรวจเพิ่มเติม (เช่น การนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ) หรือสงสัยมีโครงสร้างของเท้าผิดปกติ อาจทำการเอกซเรย์ดูกระดูกเท้า


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. แนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนไปใช้รองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่คับหรือบีบแน่นเกินไป และใช้ฟองน้ำรองส่วนที่เป็นตาปลาหรือหนังหนาด้านไว้เวลาใส่รองเท้า เพื่อลดแรงเสียดสีในรายที่เป็นไม่มาก มักจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายในเวลาหลายสัปดาห์

2. ใช้ปลาสเตอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกชนิด 40% ปิดส่วนที่เป็นรอยโรค ซึ่งจะค่อย ๆ ลอกตาปลาออกไป หรือใช้ยากัดตาปลาหรือหูด ซึ่งมีกรดซาลิไซลิกผสม

ก่อนทายา ให้แช่รอยโรคด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ ในอ่าง หรือใช้ขวดยาน้ำของเด็กใส่น้ำอุ่นจัด ๆ แล้วคว่ำลงไปที่รอยโรคนาน 20 นาที แล้วใช้ตะไบเล็บหรือผ้าขนหนูขัดบริเวณรอยโรค จะช่วยให้ผิวหนังที่เป็นขุย ๆ หลุดออกไป แล้วจึงทายา ทำวันละ 1-2 ครั้ง

เวลาทายา ระวังอย่าให้น้ำยาถูกผิวหนังปกติ

3. ถ้ารอยโรคมีขนาดใหญ่ มีอาการเจ็บปวดมาก ติดเชื้อรุนแรง หรือพบในผู้ที่เป็นนิ้วเท้างุ้ม หรือเป็นเบาหวาน แพทย์จะทำการตรวจเพิ่มเติม และให้การรักษาภาวะที่พบร่วม เช่น แก้ไขอาการนิ้วเท้างุ้ม ควบคุมโรคเบาหวาน เป็นต้น

ส่วนรอยโรคที่มีขนาดใหญ่และหนา อาจใช้ใบมีดผ่าตัดผ่านผิวเนื้อรอยโรคที่ตายแล้วออกทีละน้อย

บางกรณีแพทย์อาจใช้อุปกรณ์หรือรองเท้าที่ทำขึ้นเฉพาะในการช่วยรักษา หรือผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างของเท้า นิ้วเท้า หรือกระดูกเท้าที่ผิดปกติ

4. ถ้ามีการติดเชื้อให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลิน หรืออีริโทรไมซิน


การดูแลตนเอง

ถ้ามีอาการเล็กน้อย และไม่มีอาการปวดหรืออักเสบ ไม่ต้องให้การรักษาแต่อย่างใด

ควรเปลี่ยนไปใช้รองเท้าที่มีขนาดพอดี ไม่คับหรือบีบแน่นเกินไป และใช้ฟองน้ำรองส่วนที่เป็นตาปลาหรือหนังหนาด้านไว้เวลาใส่รองเท้าเพื่อลดแรงเสียดสี

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดหรืออักเสบ
    รอยโรคมีขนาดโตขึ้น 
    นิ้วเท้างุ้ม หรือเป็นเบาหวาน
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง


การป้องกัน

ลดแรงกดและแรงเสียดสีของเท้าและนิ้วเท้า โดยการใส่รองเท้าที่พอดีกับเท้า หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ และใช้ฟองน้ำบุหรือรองส่วนที่เกิดแรงกดหรือเสียดสี


ข้อแนะนำ

1. ถ้าไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการผ่าตัดหรือจี้ด้วยไฟฟ้า จะทำให้เป็นแผลเป็น และรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่ลงน้ำหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นที่บริเวณส้นเท้า

2. ห้ามผู้ป่วยใช้มีดหรือของมีคมฝานกันเอง อาจทำให้กลายเป็นแผลอักเสบและบวมเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน

3. หนังหนาด้าน อาจพบที่ฝ่ามือหรือหัวเข่าบริเวณที่มีแรงเสียดสี เช่น การใช้มือจับอุปกรณ์ (เช่น จอบ เสียม มีด กรรไกร เป็นต้น) ในการทำงานเกิดแรงเสียดสีเป็นประจำ

2
จัดฟันบางนา: ทำไมต้องผ่าฟันคุด

หลายคนมีฟันคุด ที่เป็นปัญหากวนใจทำให้เรามีอาการปวดฟัน แบบทรมานแทบจะนอนไม่หลับเลยทีเดียว และการที่เราปวดฟันคุดนั้น อาจจะส่งผลให้เรามีอาการปวดหัวร่วมด้วย ซึ่งหากเรามีฟันคุดก็ควรที่เข้ารับการถอนฟันออก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจจะตามมาได้ในอนาคต เพราะฟันคุด คือฟันที่ไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติในช่องปาก อาจจะโผล่ขึ้นมาได้เพียงบางส่วน หรือฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรทั้งซี่ ฟันซี่ที่พบว่าเป็นฟันคุดบ่อยที่สุด คือ ฟันกรามล่างซี่สุดท้าย ซึ่งอยู่ด้านในสุดของกระดูกขากรรไกรล่าง โดยปกติแล้วฟันซี่นี้ควรจะขึ้นในช่วงอายุ 18 – 25 ปี อาจโผล่ขึ้นอยู่ในลักษณะตั้งตรง เอียง หรือนอนในแนวระนาบ และมักจะอยู่ชิดกับฟันข้างเคียงเสมอ นอกจากนี้ฟันซี่อื่นๆแล้ว ก็อาจจะคุดได้ เช่น ฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อยแต่พบได้น้อย


แต่ฟันคุดหากปล่อยไว้แล้วมีอาการปวด ทันตแพทย์จะแนะนำให้เราผ่าออก ซึ่งการผ่าฟันคุดเป็นการผ่าตัดเพื่อนำฟันที่ไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติออก แต่ถ้ามีไม่มีอาการรุนแรงจนเกินไป ทันตแพทย์จะทำรักษาด้วยการตกแต่งเนื้อเยื่อโดยรอบ หรืออาจจะแนะนำให้รักษาความสะอาดช่องปากและฟันอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีการอักเสบเล็กๆ ที่เหงือกบริเวณด้านหลังของฟันที่จะทำให้เกิดอาการเจ็บขณะกัดฟัน ทันตแพทย์อาจทำการรักษาเนื้อเยื่อบริเวณที่อักเสบ หรือแนะนำให้ผู้ป่วยเปลี่ยนวิธีแปรงฟัน และให้ผู้ป่วยใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดที่ซอกฟันด้านหน้าและด้านหลังของฟันคุด ซึ่งจะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพที่ดีขึ้นและหลีกเลี่ยงการเกิดโรคเหงือกอักเสบหรือการติดเชื้อบริเวณรอบๆ ฟันคุดได้ด้วย

สำหรับวันนี้ทางคลินิกเราจะมาพูดถึงปัญหาที่หลายๆคนมักเผชิญและเป็นปัญหากวนใจที่อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ เพราะถ้าหากอาการปวดฟันคุดกำเริบขึ้นมา อาจจะส่งผลต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงคำถามที่ว่า ทำไมเราจะต้องผ่าตัดฟันคุด ต้องบอกก่อนว่าฟันคุด ถ้าหากไม่มีอาการเจ็บปวดหรือส่งผลกระทบใดต่อสุขภาพฟัน ทันตแพทย์ก็จะแนะนำให้รักษาโดยวิธีการอื่น โดยที่ไม่ต้องถอนฟัน แต่ถ้าหากฟันคุดทำให้เกิดอาการปวดขึ้นมา ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหา หรือการเอกซเรย์แสดงให้เห็นว่าฟันคุดส่งผลกระทบต่อฟันซี่อื่นๆ อย่างชัดเจน หรือหากมีสาเหตุอื่นๆ ที่เกิดจากฟันคุดก็จำเป็นต้องผ่าตัดออก โดยสาเหตุที่อาจทำให้ทันตแพทย์ตัดสินใจผ่าฟันคุดออกเพื่อทำการรักษาและแก้ไขทันที


ยกตัวอย่างเช่น ถ้าฟันคุดเกิดสร้างความเสียหายให้กับฟันซี่อื่นๆ บริเวณใกล้เคียง ก็อาจจะก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดภายในช่องปาก หรือปัญหาในการกัดได้ รวมไปถึงอาจจะสร้างความเสียหายที่ขากรรไกร ฟันคุดอาจก่อให้เกิดถุงน้ำรอบๆ แล้วอาจทำให้บริเวณขากรรไกรนั้นถูกทำลายจนเป็นหลุมและทำลายเส้นประสาทที่บริเวณขากรรไกรได้ บางกรณีอาจเกิดปัญหาที่ไซนัส ฟันคุดสามารถก่อให้เกิดอาการปวด แรงดัน หรืออาการบวมที่ไซนัส นอกจากนี้ ฟันคุดยังเป็นสาเหตุของการเกิดเหงือกอักเสบ เมื่อเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟันคุดเกิดการอักเสบ จะทำให้เกิดอาการบวมและยากต่อการทำความสะอาด และแน่นอนการเกิดฟันผุ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการเหงือกบวมจากฟันคุดจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟัน และทำให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปเจริญเติบโต และก่อให้เกิดฟันผุตามมาได้

ดังนั้น ถ้าหากเกิดปัญหาหรืออาการที่กล่าวมาข้างต้น เราควรที่จะปรึกษาทันตแพทย์เพื่อทำการผ่าฟันคุดออกทันที เพื่อป้องกันการอักเสบของเหงือกที่ปกคลุมฟัน เพราะจะมีเศษอาหารเข้าไปติดอยู่ใต้เหงือกได้ แล้วไม่สามารถทำความสะอาดได้ อาจจะทำให้เกิดการสะสมจนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันตามมา ทั้งนี้ เชื้อแบคทีเรียที่มาสะสมอยู่จะทำให้เหงือกอักเสบ ปวดและบวมเป็นหนอง ถ้าทิ้งไว้การอักเสบจะลุกลามไปใต้คาง หรือใต้ลิ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ง่าย นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนไม่ควรมองข้าม ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจในเรื่องของการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน เพื่อที่จะได้มีสุขภาพฟันที่ดี และเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตด้วย

3
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


4
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


5
วิธีเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านให้เหมาะกับสไตล์โมเดิร์น

สำหรับคนที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น การเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บ้านของคุณดูเรียบหรูและทันสมัยอย่างที่ตั้งใจไว้ ลองใช้เทคนิคเหล่านี้ดูนะคะ

1. เฟอร์นิเจอร์: เน้นรูปทรงเรขาคณิต
เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์โมเดิร์นจะเน้นความเรียบง่ายและเส้นสายที่ตรงไปตรงมา เช่น โซฟาหรือเก้าอี้ที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยม และ โต๊ะกลางที่ทำจากกระจกหรือโลหะ นอกจากนี้ ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีโทนกลางๆ เช่น สีขาว สีดำ หรือสีเทา เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศโดยรวมของบ้าน


2. ของตกแต่ง: เลือกน้อยแต่ดูดี
ของตกแต่งควรเน้นที่ฟังก์ชันการใช้งานและมีดีไซน์ที่โดดเด่น ไม่ควรวางของตกแต่งมากเกินไปจนทำให้บ้านดูรก ลองเลือก แจกันรูปทรงแปลกตา หรือ ภาพศิลปะแบบนามธรรม เพียงไม่กี่ชิ้นมาสร้างจุดเด่นให้ห้องก็เพียงพอแล้ว


3. วัสดุ: ใช้พื้นผิวที่หลากหลาย
การผสมผสานวัสดุที่แตกต่างกันจะช่วยเพิ่มมิติให้บ้านดูน่าสนใจมากขึ้น ลองใช้ พื้นผิวที่ทำจากโลหะ เช่น เหล็กหรือสเตนเลสสตีล เพื่อให้ความรู้สึกที่ทันสมัย หรือ วัสดุธรรมชาติ อย่างไม้หรือหินอ่อน เพื่อสร้างความอบอุ่น


4. แสงสว่าง: สร้างความทันสมัย
แสงสว่างเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บ้านสไตล์โมเดิร์นดูน่าอยู่ขึ้น ลองใช้ โคมไฟเพดานที่มีดีไซน์เรียบง่าย หรือ โคมไฟตั้งพื้นที่มีรูปทรงเรขาคณิต นอกจากนี้ การใช้ไฟแบบซ่อนตามผนังจะช่วยให้บ้านดูมีลูกเล่นและทันสมัยมากขึ้น

เมื่อคุณเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งตามหลักการเหล่านี้ บ้านของคุณจะสะท้อนความเป็นสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัวและน่าอยู่แน่นอนค่ะ

6
ตรวจสอบกลยุทธ์ Digital Marketing ให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจการสร้างอาชีพ

การตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจ การมีกลยุทธ์ Digital Marketing ที่ดีและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ จะช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาวช่วยขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของลูกค้า การแปลงข้อมูลและรายได้อีกด้วย

นี่คือวิธีที่ธุรกิจสามารถตรวจสอบและปรับกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลให้เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลัก
1. กำหนดวัตถุประสงค์ทางธุรกิจที่ชัดเจน
ก่อนที่จะประเมินกลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ธุรกิจจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เป้าหมายทั่วไป ได้แก่:
เพิ่มการรับรู้แบรนด์
เพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์
สร้างโอกาสในการขาย
เพิ่มยอดขายและรายได้
เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า
เป้าหมายแต่ละอย่างต้องใช้แนวทางการตลาดดิจิทัลเฉพาะ ดังนั้นความชัดเจนจึงมีความจำเป็นในการวัดผล

2. วิเคราะห์ประสิทธิภาพการตลาดดิจิทัลปัจจุบัน
การดำเนินการตรวจสอบอย่างครอบคลุมของความพยายามทางการตลาดดิจิทัลปัจจุบันช่วยระบุจุดแข็งและจุดอ่อนได้ พื้นที่สำคัญที่ต้องประเมิน ได้แก่:
ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ (ความเร็วในการโหลด ประสบการณ์ผู้ใช้ การจัดอันดับ SEO)
การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียและการเติบโตของผู้ติดตาม
อัตราการเปิดและคลิกผ่านของการตลาดทางอีเมล
ประสิทธิภาพของแคมเปญแบบจ่ายต่อคลิก (PPC)
ประสิทธิผลของการตลาดเนื้อหา (การเข้าชมบล็อก การแชร์ การแปลง)
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics, SEMrush และข้อมูลเชิงลึกของโซเชียลมีเดีย จะทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ผลและสิ่งที่ต้องปรับปรุง

3. จัดแนวกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเดินทางของลูกค้า
การทำความเข้าใจการเดินทางของลูกค้า ตั้งแต่การรับรู้ไปจนถึงการแปลง ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ธุรกิจควรวางแผนกลยุทธ์ให้ครอบคลุมทุกขั้นตอน:
การรับรู้: ใช้ SEO การตลาดเนื้อหา และโซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพ
การพิจารณา: ใช้ประโยชน์จากการตลาดทางอีเมล โฆษณาแบบรีทาร์เก็ตติ้ง และคำรับรองของลูกค้าเพื่อบ่มเพาะลูกค้าเป้าหมาย
การแปลง: ปรับแต่งหน้า Landing Page ให้เหมาะสม ใช้ CTA ที่ชัดเจน และเสนอสิ่งจูงใจเพื่อกระตุ้นยอดขาย
การรักษาลูกค้า: รักษาการมีส่วนร่วมผ่านแคมเปญอีเมลส่วนบุคคลและโปรแกรมความภักดี

4. ใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อการปรับให้เหมาะสม
การตัดสินใจตามข้อมูลช่วยให้ปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจควรตรวจสอบตัวชี้วัดประสิทธิภาพหลัก (KPI) เช่น:
อัตราการแปลง
ต้นทุนต่อการซื้อ (CPA)
ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
มูลค่าตลอดอายุลูกค้า (CLV)
การวิเคราะห์เป็นประจำช่วยในการปรับแต่งกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจมากขึ้น

5. ปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค
การตลาดดิจิทัลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจควรคอยอัปเดตเกี่ยวกับแนวโน้มของอุตสาหกรรม เช่น:
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตลาด
การปรับให้เหมาะสมของการค้นหาด้วยเสียง
การเติบโตของการตลาดวิดีโอ
การตลาดอัตโนมัติส่วนบุคคล
การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงช่วยให้กลยุทธ์ยังคงมีประสิทธิภาพในภูมิทัศน์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

6. ปรับปรุงการบูรณาการข้ามช่องทาง
กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จจะบูรณาการช่องทางต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่น ธุรกิจควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า:
การตลาดโซเชียลมีเดียสนับสนุนความพยายามทางการตลาดเนื้อหา
แคมเปญอีเมลช่วยเสริมการโปรโมตเว็บไซต์และผลิตภัณฑ์
การโฆษณา PPC ช่วยเสริมกลยุทธ์ SEO แบบออร์แกนิก
การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมสูงสุด ส่งผลให้มีการแปลงข้อมูลสูงขึ้น

7. ทดสอบและปรับแต่งกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
การทดสอบ A/B องค์ประกอบการตลาดต่างๆ เช่น หัวเรื่อง การสร้างสรรค์โฆษณา และบรรทัดหัวเรื่องของอีเมล ช่วยในการระบุกลวิธีที่ได้ผลที่สุด ธุรกิจควร:
ทดลองใช้แนวทางการตลาดที่แตกต่างกัน
วิเคราะห์ผลการทดสอบเพื่อพิจารณาว่าแนวทางใดที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมเพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

การตรวจสอบกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเป็นประจำจะช่วยให้มั่นใจว่ากลยุทธ์เหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ขับเคลื่อนการเติบโตและความสำเร็จที่ยั่งยืน ธุรกิจสามารถสร้างกรอบการทำงานการตลาดดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและไดนามิกได้ โดยการกำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน วิเคราะห์ข้อมูล ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มของอุตสาหกรรม กุญแจสำคัญของความสำเร็จอยู่ที่การประเมินอย่างต่อเนื่องและการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มผลกระทบสูงสุดและบรรลุผลลัพธ์ที่ต้องการ


7
หมอออนไลน์: กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute pyelonephritis)

กรวยไตอักเสบเฉียบพลัน เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 4 เท่า

มักพบในผู้หญิงในวัยเด็กหรือขณะตั้งครรภ์ ในผู้ที่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต เนื้องอกหรือมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ผู้ที่มีความผิดปกติของประสาทไขสันหลัง หรือผู้ป่วยที่เคยสวนปัสสาวะมาก่อน (เช่น ผู้ป่วยหนักที่นอนพักรักษาอยู่ในโรงพยาบาล) หรือมีการคาสายสวนปัสสาวะเป็นประจำ (เช่น ผู้ป่วยที่มีอาการอัมพาตรุนแรง)

นอกจากนี้ โรคนี้ยังพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เบาหวาน เอดส์ มะเร็ง ผู้ที่กินสเตียรอยด์นาน ๆ) ผู้ที่มีความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินปัสสาวะ


สาเหตุ

เกิดจากการติดเชื้ออักเสบเฉียบพลันในบริเวณกรวยไต ส่วนมากเชื้อโรคมักจะแพร่กระจายมาจากบริเวณผิวหนังรอบ ๆ ท่อปัสสาวะ เข้ามาในท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ (ทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ) และผ่านท่อไตขึ้นมาที่ไต ส่วนใหญ่มักมีการติดเชื้อที่ไตข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว

การอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะมักเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เช่น นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต กระเพาะปัสสาวะไม่ทำงานในผู้ป่วยอัมพาต การตั้งครรภ์ หรือมีก้อนในช่องท้อง เป็นต้น

เชื้อที่พบได้บ่อย เป็นเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบ ได้แก่ อีโคไล (Escherichia coli), เคล็บซิลลา (klebsiella), สูโดโมแนส (pseudomonas)

นอกจากนี้ ในบางรายเชื้อโรคอาจแพร่กระจายจากส่วนอื่น ๆ ของร่างกายโดยทางกระแสเลือดก็ได้

อาการ

ผู้ป่วยส่วนมากจะมีอาการปวดที่บริเวณสีข้างขึ้นอย่างฉับพลัน โดยจะปวดมากที่ข้างใดข้างหนึ่ง และอาจปวดร้าวลงมาที่บริเวณขาหนีบ พร้อมกับมีไข้สูง หนาวสั่นมากเป็นพัก ๆ (อาจต้องห่มผ้าหลายผืน คล้ายไข้มาลาเรีย แต่จะจับไข้ไม่เป็นเวลาแน่นอน)

ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน

ปัสสาวะมักมีลักษณะขุ่น บางครั้งอาจข้นเป็นหนอง

บางรายที่มีกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย จะมีอาการขัดเบา และอาจมีอาการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย

ในทารกและเด็กเล็ก อาจมีอาการไม่ชัดเจนเหมือนที่พบในผู้ใหญ่ เด็กอาจมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อนมและอาหาร คล้ายเป็นไข้ทั่ว ๆ ไป

ในผู้สูงอายุ อาจมีอาการไข้สูงและความคิดสับสน


ภาวะแทรกซ้อน

มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ คนอ้วน ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยเอดส์) หรือได้รับการรักษาที่ล่าช้าหรือไม่ต่อเนื่อง

ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่อาจพบได้ ได้แก่ การเกิดฝีในไตหรือรอบ ๆ ไต, ไตวายเฉียบพลัน, เชื้อลุกลามเข้ากระแสเลือด กลายเป็นภาวะโลหิตเป็นพิษ และภาวะช็อกจากโรคติดเชื้อ (septic shock)

นอกจากนี้ หากรักษาไม่ต่อเนื่อง และเชื้อไม่สามารถถูกขจัดได้หมด ก็อาจทำให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลันกำเริบซ้ำซาก หรือในรายที่เนื้อไตถูกทำลายก็อาจเกิดภาวะไตวายเรื้อรังได้

สำหรับผู้หญิงที่เป็นโรคนี้ขณะตั้งครรภ์ นอกจากภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวแล้ว ยังอาจมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักตัวน้อย หรือทารกตายในครรภ์


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย

มักตรวจพบไข้สูง 39-40 องศาเซลเซียส

ถ้าใช้กำปั้นทุบหรือเคาะเบา ๆ ที่สีข้างตรงที่ปวด ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บจนสะดุ้ง (ส่วนใหญ่จะพบที่สีข้างเพียงข้างเดียว แต่บางรายอาจพบทั้งสองข้าง)

หน้าท้องอาจมีอาการกดเจ็บ หรือท้องเกร็งแข็งเล็กน้อย ปัสสาวะมีลักษณะขุ่น

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจปัสสาวะ จะพบเม็ดเลือดขาวจำนวนมาก ทั้งเป็นเม็ดเลือดขาวที่อยู่แยกกันเดี่ยว ๆ และเม็ดเลือดขาวที่เกาะกันเป็นแพ (white blood cells cast) 

นอกจากนี้อาจทำการตรวจเลือด เอกซเรย์ อัลตราซาวนด์

บางรายแพทย์อาจทำการตรวจพิเศษอื่น ๆ ตามความจำเป็น เช่น ทำการเพาะเชื้อจากปัสสาวะและ/หรือเลือด ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าอาการไม่รุนแรง ให้การรักษาด้วยยาลดไข้ และยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน โคไตรม็อกซาโซล โอฟล็อกซาซิน ไซโพรฟล็อกซาซิน โคอะม็อกซิคลาฟ เป็นต้น) โดยทั่วไปหากไม่มีภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นหลังให้ยาปฏิชีวนะ 48-72 ชั่วโมง ซึ่งแพทย์จะให้ยาติดต่อกันนาน 14 วัน ในรายที่กินยาไม่ได้ก็จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีดแทน

2. ถ้าอาการไม่ทุเลา 72 ชั่วโมง หรือมีอาการรุนแรง หรือมีภาวะแทรกซ้อน (เช่น ช็อก ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะออกน้อย ซีด เหลือง หรือสงสัยโลหิตเป็นพิษ) แพทย์จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ทำการตรวจพิเศษต่าง ๆ เพื่อค้นหาเชื้อที่เป็นสาเหตุ และภาวะผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสริมให้มีการติดเชื้อ

การรักษา แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะตามชนิดของเชื้อที่ตรวจพบ ในระยะแรกมักให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีด เช่น เซฟาโลสปอริน

ถ้าพบความผิดปกติอื่น ๆ ก็อาจให้การแก้ไขร่วมไปด้วย เช่น รักษาโรคเบาหวาน, การผ่าตัดแก้ไขความผิดปกติของโครงสร้างทางเดินปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก นิ่วในทางเดินปัสสาวะ เนื้องอก เป็นต้น

3. หลังจากรักษาจนอาการหายเป็นปกติแล้ว แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะหลงเหลืออยู่ โดยการตรวจปัสสาวะ และ/หรือการเพาะเชื้อจากปัสสาวะ หากพบว่าการติดเชื้อยังไม่หายดี ก็จะให้ยาปฏิชีวนะรักษาต่อเนื่องจนกว่าจะหายขาด

ผลการรักษา ส่วนใหญ่เมื่อได้ยาปฏิชีวนะ มักหายได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ ส่วนน้อยที่อาจมีการติดเชื้อเรื้อรัง สำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวานหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือได้รับการรักษาล่าช้าไป ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อน (เช่น โลหิตเป็นพิษ ไตวาย) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดบริเวณสีข้าง ปัสสาวะขุ่น ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    ปฏิบัติตัว และกินยาให้ครบตามที่แพทย์แนะนำ 
    นอนพักให้มาก ๆ ห้ามตรากตรำงานหนัก ห้ามอาบน้ำเย็น
    ดื่มน้ำให้มาก ๆ   
    ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเวลามีไข้สูง
    กินอาหารอ่อน (ข้าวต้ม โจ๊ก) น้ำหวาน น้ำผลไม้
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด แม้จะหายดีแล้ว ก็ควรไปตรวจปัสสาวะให้แน่ใจว่าไม่ได้มีการติดเชื้ออักเสบเรื้อรัง

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 72 ชั่วโมง
    คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือดื่มน้ำได้น้อย
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. ป้องกันมิให้มีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ โดยการปฏิบัติตัว ดังนี้

    ดื่มน้ำมาก ๆ
    อย่าอั้นปัสสาวะเวลามีอาการปวดปัสสาวะ
    หลังถ่ายอุจจาระ ควรใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากข้างหน้าไปข้างหลัง
    ควรดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนร่วมเพศ และถ่ายปัสสาวะทันทีหลังร่วมเพศ

2.  รักษาโรคที่เป็นปัจจัยเสริมให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เบาหวาน เอดส์ ต่อมลูกหมากโต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ เนื้องอกในทางเดินปัสสาวะหรือในช่องท้อง เป็นต้น

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยที่เป็นกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มักมีไข้สูงหนาวสั่นคล้ายไข้มาลาเรีย แต่จะมีอาการปวดและเคาะเจ็บที่สีข้าง และปัสสาวะขุ่น ดังนั้น เมื่อพบคนที่มีอาการไข้หนาวสั่นมาก ควรนึกถึงโรคนี้ไว้เสมอ

2. ผู้สูงอายุ ทารกและเด็กเล็ก ที่เป็นกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน อาจมีอาการที่ไม่ชัดเจน เช่น ผู้สูงอายุอาจมีไข้และความคิดสับสน ทำให้คิดว่าเป็นโรคอื่น เด็กอาจมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่อนมและอาหาร คล้ายเป็นไข้ทั่ว ๆ ไป หากเป็นซ้ำซากอาจมีน้ำหนักน้อย (ตัวเล็ก) กว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน ดังนั้น ผู้สูงอายุ ทารกและเด็กเล็กที่เป็นไข้ที่ไม่พบสาเหตุชัดเจนควรนึกถึงโรคนี้ และทำการตรวจเพิ่มเติมรวมทั้งการตรวจปัสสาวะ เพื่อวินิจฉัยโรคให้ชัดเจน

8
รถรับจ้างราคาถูก รถรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมให้บริการ ตลอด 24 ชม.

รถรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ ที่ให้บริการรับจ้างขนของ ขนย้าย ด้วยทีมงานมืออาชีพจริงๆ ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนในการบริการ รถกระบะรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ รถหกล้อรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ รถ10ล้อรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์  รถเฮียบรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ รถรับจ้างทั่วไปจังหวัดนครสวรรค์  รถบรรทุกรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีบริการที่มากมายหลายแบบ ตามลักษณะงานที่ลูกค้าจ้างให้ทำ เราได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แรกเริ่มให้บริการมี รถรับจ้าง

เพียงไม่กี่คัน แต่เมื่อเวลาผ่านมากว่า 10 ปีแล้ว รถรับจ้างขนของจังหวัดนครสวรรค์ ได้ขยายตัวเป็นอย่างมาก โดยมีรถให้บริการทุกประเภท และมีจำนวนหลายคัน เพื่อรองรับกับการขยายตัวของชุมชนและธุรกิจทุกประเภทของผู้ใช้บริการและผู้ประกอบการทุกท่าน
ส่วนในเรื่องของคำถามที่ถูกพบบ่อยมากที่สุด นั่นคือ เรื่อง ราคาแพงมั้ย เพราะดิฉันเข้าใจกับทุกท่านที่ค้นหาทุกเว็บไซต์ของ รถเช่า ในทุกๆเว็บ และจะโทรสอบถามทุกๆเว็บ และทำการเปรียบเทียบราคาว่า ระยะทางจาก

ตรงนี้ ถึงตรงนั้นจะราคาเท่าไหร่? แน่นอนค่ะว่านั่นคือสิ่งที่ผู้ใช้บริการตะหนักมากพอสมควร ราคาถูกแน่นอน ถูกชัวร์ และถูกจริง ซึ่งทางขนส่ง เราไม่ได้มีแต่เพียง รถรับจ้างขนย้ายบ้าน แต่อย่างเดียว ทางเรายังมีบริการดีๆมาเอาใจคนรักการ เที่ยวอีกด้วยค่ะ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ให้คุณได้ไปสัมผัส หากคุณคิดที่จะเที่ยวหรือมีการวางแผนเที่ยวหลายวัน คุณสามารถมาเลือกใช้บริการเราได้ “ข้อดีของการจ้างรถรับจ้าง” นั่นคือ คือคุณสามารถใช้เวลาตามสถานที่ต่างๆ ได้ตามใจ

ชอบ และที่สำคัญที่สุดคือความสะดวกสบายนั่นเอง หากคุณคิดที่จะเที่ยวคุณต้องเที่ยวให้สุด และไปหลากหลายสถานที่ ถึงจะคุ้มค่า ตลอดจนเพลินเพลินกับการ เซลฟี่ เก็บเรื่องราวความประทับใจตลอดจนบันทึกเป็นความทรงจำผ่านรูปภาพ

ไม่ว่าระยะทางจะไกลสักแค่ไหนมันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับ รถรับจ้าง อย่างเรา เราพร้อมที่จะเดินทางร่วมไปพร้อมกับคุณในทุกๆที่ซึ่งเรามีรถให้บริการที่มากชนิด ได้แก่ รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถ10ล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถรับจ้าง4ล้อ

ใหญ่ รถพ่วงรับจ้าง รถรับจ้างขนของทั่วไป รถรับจ้างย้ายบ้าน ที่บริการงานขนย้ายตามที่เหมาะกับงานและสินค้าของลูกค้าที่ต้องการจะขน ที่คุณอยากจะไป พร้อมทำให้คุณเพลิดเพลิน อิ่มอกอิ่มใจไปกับการท่องเที่ยวที่สุดคุ้มค่านั่นเอง
รถบรรทุกรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ บริการรวดเร็วทันใจ ในการให้บริการ รถหกล้อรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์ เราเน้นความรวดเร็วเป็นหลัก เพราะเรารู้ว่าหากคุณต้องการใช้บริการรถรับจ้างจังหวัดนครสวรรค์แล้ว ย่อมหมายถึงเอาอย่างไว ไม่อยากรอนาน

รถ 6 ล้อรับจ้าง รับขนย้ายของ

เพราะถ้างาน บริการรถรับจ้าง ไม่เล็งเห็นความสำคัญของผู้ใช้บริการ คุณคงจะหารถรับจ้างเจ้าอื่นที่ไวกว่าเพื่อแข่งกับเวลาที่มีคุณค่า เมื่อคุณเรียกใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายให้มาขนย้ายของเวลาใด ทางเราจะรีบจัดหา รถรับจ้างนครสวรรค์ ที่เหมาะสมไปให้บริการภายในเวลาอันรวดเร็ว และปลอดภัยที่สุด 100%
หากวันนี้ ท่านอาจจะยังลังเลว่า จะใช้บริการรถรับจ้างที่ไหนดี? หรือว่า จ้างขนของไปแล้ว รถขนาดเท่านี้จะใส่ของหมดหรือไม่ และสินค้าเราระหว่างเดินทางจะเสียหายมั้ย

ซึ่งเป็นคำถามที่ยอดฮิตมากครับ แต่เนื่องด้วยงานบริการที่เรา รับใช้มานานนี้ ประสบการณ์เท่านั้นที่จะสามารถตอบท่านได้อย่างไม่แครงใจ เพราะเราแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ท่านได้อย่างรวดเร็วและแน่นอน ท่านจงสบายใจได้เลย ปลอดภัย หายห่วงและประหยัดเงินอย่างแน่นอน
อยากรู้ว่า หากจะใช้บริการ รถรับจ้างขนของนครสวรรค์ ต้องทำยังไงบ้าง ไม่ยากเลยครับ

เพราะเรามีศูนย์ให้บริการลูกค้าส่วนกลาง มีคนตามคิวงาน มีคนแจ้งเสนอราคา และคนที่ให้บริการหลังการขายให้ด้วย เพราะเรามองว่า การบริการที่ดี เราก็จะลูกค้าที่ดีตอบรับกลับเรามาเช่นกัน บริการที่เป็นมาตรฐานขนาดนี้ แต่ราคาเท่ากันกับ รถรับจ้างขนย้ายทั่วไปในนครสวรรค์ อีกด้วย แล้วยังต่อรองราคาได้อีก ท่านคิดว่า ด้วยความต่างแบบนี้แต่ราคาเท่ากันหรือถูกกว่า แล้วท่านจะรีรอทำไมครับ โทรหาเราตอนนี้เลย ถ้าจะเอาโปรโมชั่นราคาถูกได้ ก็ต้องฝากข้อความไว้นะครับ เราจะติดต่อกลับไปในราคาพิเศษจริง

9
เปรียบเทียบการ ขนย้ายบ้าน โดยใช้บริการ รถรับจ้างขนย้ายบ้าน และการขนย้ายเอง

ความสะดวกสบายเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเปรียบเทียบระหว่างการใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายและการขนย้ายเองในการย้ายบ้าน

การใช้บริการรถรับจ้างขนย้าย

    ความสะดวกในการรับบริการ : การเรียกใช้บริการรถรับจ้างขนย้าย มีความสะดวกสบายที่มาก เนื่องจากคุณสามารถติดต่อบริการรถรับจ้างขนย้ายและนัดหมายเวลาการขนย้ายของคุณตามความสะดวกของคุณ และสามารถเลือกวันและเวลาที่เหมาะสมสำหรับคุณ
    ความสะดวกในการรับความช่วยเหลือ : การมีคนช่วยย้ายของที่มาพร้อมกับบริการรถรับจ้างขนย้ายทำให้คุณไม่ต้องฝ่าฝืนมากเพื่อย้ายของหนัก นี่สามารถทำให้คุณประหยัดความพยายามและเวลาในกระบวนการขนย้าย

การขนย้ายเอง

    ความสะดวกในการควบคุม : การทำการขนย้ายเองช่วยให้คุณควบคุมกระบวนการทั้งหมดได้ตามต้องการของคุณ คุณสามารถเลือกวิธีการแพ็คของ การจัดระเบียบ และเวลาการขนย้ายได้ตามที่คุณต้องการ
    ความสะดวกในการปรับแต่ง : การขนย้ายเองมีความสะดวกสบายในการปรับแต่งกระบวนการตามความต้องการของคุณ คุณสามารถเลือกเวลาที่เหมาะสมสำหรับคุณและการจัดระเบียบสิ่งของตามแบบที่คุณต้องการ

การใช้ บริการรถรับจ้างขนย้ายสุพรรณบุรี มีความสะดวกสบายในเรื่องของการรับบริการและความช่วยเหลือที่มาพร้อม ในขณะที่การขนย้ายเองมีความสะดวกสบายในเรื่องของควบคุมและการปรับแต่งกระบวนการการขนย้ายตามต้องการของคุณรถรับจ้างขนย้ายร้าน

    ความคุ้มค่าเมื่อใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายเทียบกับการขนย้ายเองมีความสำคัญในการตัดสินใจว่าวิธีการไหนเหมาะสมกับความต้องการของคุณ

การใช้บริการรถรับจ้างขนย้าย

    ค่าบริการ : การจ้างบริการรถรับจ้างขนย้าย มักมีราคาที่ต้องจ่ายตามการใช้บริการ ราคานี้รวมถึงค่าแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และค่าใช้บริการทั้งหมด
    ความสะดวกในการจัดการงบประมาณ : การใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายช่วยให้คุณสามารถทราบค่าใช้จ่ายล่วงหน้า และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือค่าใช้บริการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการ
    ประหยัดเวลา : การใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายสามารถช่วยคุณประหยัดเวลา โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมและจัดการของเองหรือการดูแลกระบวนการขนย้าย

การขนย้ายเอง

    ค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ได้ : การขนย้ายเองคุณจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายตามความต้องการของคุณ รวมถึงค่าซื้อหรือเช่ารถและอุปกรณ์ที่จำเป็น ค่าเช่ารถบรรทุก ค่าน้ำมัน ค่าแรงงาน ค่าสินค้าที่เสียหาย และค่าที่พัก ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะต้องคำนวณและจ่ายในระหว่างกระบวนการขนย้าย
    ความคุ้มค่าตามงบประมาณ : การขนย้ายเองมักช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณได้ดีกว่า และคุณสามารถปรับแต่งค่าใช้จ่ายตามความสามารถของคุณและต้องการของคุณ
    ความสะดวกในการปรับแต่ง : การขนย้ายเองมีความสะดวกสบายในการปรับแต่งการควบคุมงบประมาณตามความต้องการของคุณ คุณสามารถเลือกวิธีการแพ็คของ การจัดระเบียบ และเวลาการขนย้ายได้ตามที่คุณต้องการ

ความคุ้มค่าเมื่อใช้ บริการรถรับจ้างขนย้ายสุพรรณบุรี เทียบกับการขนย้ายเองเกี่ยวกับความคุ้มค่าในเรื่องของค่าใช้จ่ายทั้งหมดและความสะดวกสบายในการจัดการงบประมาณและกระบวนการการขนย้ายตามความต้องการของคุณรถรับจ้างขนย้ายต้นไม้

เวลาและแรงงานเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบการใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายกับการขนย้ายเองในกระบวนการย้ายบ้าน


การใช้บริการรถรับจ้างขนย้าย

    เวลา : การใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายมักสามารถประหยัดเวลาให้คุณ โดยไม่ต้องสรุปเวลาในกระบวนการขนย้ายเอง บริการรถรับจ้างจะดำเนินงานเพื่อคุณ และคุณสามารถตั้งเวลาให้ตรงกับความสะดวกของคุณ
    การจัดการเรื่องอื่น ๆ : การใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายช่วยคุณให้สามารถจัดการเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญในขณะที่มีคนช่วยย้ายของ คุณสามารถสร้างระบบหรือองค์กรสิ่งของของคุณในระหว่างการรอรถรับจ้างขนย้ายมาช่วย.


การขนย้ายเอง

    เวลา : การขนย้ายเองอาจใช้เวลามากขึ้น เนื่องจากคุณต้องดำเนินการทั้งกระบวนการขนย้ายเอง รวมถึงการแพ็คของ การขนย้าย และการจัดการทั้งหมด ความเร็วของกระบวนการนี้ขึ้นอยู่กับความคำนวณและการจัดการของคุณ
    การจัดการเรื่องอื่น ๆ : การขนย้ายเองจะต้องใช้ความสม่ำเสมอในการจัดการกระบวนการ และอาจทำให้คุณไม่สามารถทำงานหรือดูแลเรื่องอื่น ๆ ในช่วงเวลาการขนย้าย

เวลาและแรงงานเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเปรียบเทียบการใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายกับการขนย้ายเอง การใช้ บริการรถรับจ้างขนย้ายสุพรรณบุรี อาจประหยัดเวลาและช่วยให้คุณจัดการเรื่องอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น ในขณะที่การขนย้ายเองอาจใช้เวลามากขึ้นและมีความคุ้มค่าที่ต้องสละเพื่อควบคุมกระบวนการตามต้องการของคุณและสามารถจัดการรายการอื่น ๆ ในระหว่างกระบวนการการขนย้ายอย่างมีความคุ้มค่าสำหรับคุณหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความต้องการและสถานการณ์ของคุณ

   
ความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบการใช้บริการรถรับจ้างขนย้ายกับการขนย้ายเองในกระบวนการย้ายบ้าน

การใช้บริการรถรับจ้างขนย้าย

    ความปลอดภัยของการขนย้าย : บริการรถรับจ้างขนย้ายมักมีความเชี่ยวชาญในการเคลื่อนย้ายของและการประกันความปลอดภัยของทรัพย์สินของคุณ คุณสามารถมั่นใจว่าทรัพย์สินของคุณจะถูกดูแลอย่างเหมาะสม
    การประกันความปลอดภัย : บริการรถรับจ้างขนย้ายมักมีการประกันความปลอดภัยในกรณีทรัพย์สินเสียหายหรือสูญหายในระหว่างการขนย้าย นี้ช่วยลดความเสี่ยงและให้คุณความสบายใจ

การขนย้ายเอง

    ความปลอดภัยของการขนย้าย : การขนย้ายเองขึ้นอยู่กับความระมัดระวังและความรู้ของคุณในกระบวนการ การพิจารณาวิธีการแพ็คของ การขนย้ายและการจัดการสิ่งของมีความสำคัญในความปลอดภัยของการขนย้าย
    วิธีการเก็บรักษาทรัพย์สิน : คุณต้องรู้วิธีการเก็บรักษาและป้องกันทรัพย์สินของคุณในระหว่างการขนย้าย เช่น การแพ็คของให้เรียบร้อย การป้องกันความเสี่ยงในการบาดเจ็บ และวิธีการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินของคุณ

รถหกล้อรับจ้าง ใกล้ฉันความปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในกระบวนการย้ายบ้าน การใช้บริการรถรับจ้างขนย้าย มักมีความปลอดภัยของการขนย้ายและการประกันความปลอดภัยในทรัพย์สินของคุณ ในขณะที่การขนย้ายเองต้องขึ้นอยู่กับความระมัดระวังและความรู้ของคุณในการเก็บรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินของคุณและวิธีการป้องกันความเสี่ยง

10
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

 
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


11
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น

•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


12
จัดฟันบางนา: ทราบได้อย่างไรว่าทันตแพทย์ผ่านการอบรมเฉพาะทางแล้ว

การเข้ารับการจัดฟันแบบใส เป็นการรักษาทางทันตกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนก็มีความสนใจที่จะใช้วิธีการจัดฟันแบบใสเพื่อแก้ไขปัญหาฟัน และต้องบอกว่าการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้น ถึงแม้ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้แทบทุกกรณี แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ทันตแพทย์อาจจะไม่แนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาเข้ารับการจัดฟันแบบใส นั่นก็คือ ถ้าหากผู้เข้ารับการรักษาเป็นโรคเหงือกอักเสบ

ทันตแพทย์ก็จะแนะนำให้ทำการรักษาโรคเหงือกอักเสบให้หายเสียก่อน รวมไปถึงผู้เข้ารับการรักษาที่มีปัญหาฟันที่ค่อนข้างแก้ไขยาก ทันตแพทย์ก็อาจจะไม่แนะนำให้เข้ารับการจัดฟันแบบใส ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบใส ก็อาจจะเคยผ่านการเข้ารับการจัดฟันมาแล้ว แต่ละเลยในการสวมใส่รีเทนเนอร์ซึ่งอาจจะทำให้ฟันกลับสู่สภาพเดิมนั่นก็คือ อาจจะมีปัญหาฟันห่าง ฟันล้มได้ ซึ่งการเข้ารับการจัดฟันแบบใสนั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีต่างๆที่มีความแม่นยำเข้ามาช่วยวางแผนการรักษาด้วย จึงทำให้ผู้เข้ารับการเข้ารับการจัดฟันแบบใสส่วนใหญ่ กลับมามีฟันที่สวยงามเป็นธรรมชาติอีกครั้ง แต่การรักษาด้วยการจัดฟันแบบในนั้น จะต้องมีทันตแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและผ่านการอบรมมาเฉพาะทาง เป็นผู้ทำการรักษา

อย่างที่หลายคนทราบว่า ทันตแพทย์ที่จะทำการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส จะต้องผ่านการอบรมจากทาง Invisalign ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับทั่วโลก แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่า ทันตแพทย์ผู้ที่จะทำการรักษาได้ผ่านการอบรมมาแล้ว และวันนี้ทางคลินิกก็จะมาพูดถึงเรื่องของการเลือกทันตแพทย์ที่จะทำการจัดฟันแบบใส และจะทราบได้อย่างไรว่า ทันตแพทย์ได้ผ่านการอบรมเฉพาะทางมาแล้ว สำหรับการจัดฟันแบบใสหรือการจัดฟัน Invisalign นั้น ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมเฉพาะจาก Invisalign ซึ่งทันตแพทย์จัดฟันทุกคนจะต้องผ่านการอบรมนี้ ดังนั้น ทันตแพทย์ทั่วไปกับทันตแพทย์ที่ผ่านอบรมมาเฉพาะทางจึงมีความแตกต่างกัน

นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการจัดฟัน ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และควรเลือกสถานที่จัดฟันแบบใสที่มีความน่าเชื่อถือ และวิธีการตรวจสอบว่าทันตแพทย์ที่คุณจะเข้ารับการรักษานั้น ผ่านการอบรมมาจากทาง Invisalign หรือไม่ คุณสามารถตรวจสอบได้จากรายชื่อทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมการจัดฟันแบบใสด้วยอุปกรณ์จัดฟัน Invisalign ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือคลินิกที่คุณจะเข้ารับบริการได้ ทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมการจัดฟันแบบใส Invisalign แล้วจะได้รับประกาศนียบัตรการผ่านหลักสูตรที่คุณสามารถมองหาได้ที่คลินิกที่เราจะเข้ารับบริการ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า คุณจะได้รับบริการที่มีมาตรฐานสากลที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เพื่อให้คุณได้รับรับบริการที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทางคลินิกของเราได้รับการรองรับให้สามารถทำการจัดฟันแบบใสได้ และยังมีทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมมาอย่างเฉพาะทาง คอยให้คำแนะนำและคำปรึกษาอย่างถูกต้อง

หากสนใจสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดฟันมาอย่างยาวนาน มีการการันตีผลงานด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ทั้งนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษาในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส อย่างที่ทราบว่า การจัดฟันแบบใสนั้น มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป ดังนั้น คุณจะได้หายกังวลในเรื่องของค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพฟันที่ดี

เพราะทางเราได้ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษาทุกคน อยากให้ทุกคนมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นอกจากนี้ ทางเรายังมีโปรโมชั่นพิเศษ โดยราคาเริ่มต้นที่ 49,000 บาท จากปกติ 69,000 บาท ถ้าสนใจสามารถเข้ามาให้ทันตแพทย์ได้ประเมินช่องปากเบื้องต้นได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

13
ผ้ากันไฟควรจำเป็นต่อที่อยู่อาศัยหรือไม่

ผ้ากันไฟมีความจำเป็นต่อที่อยู่อาศัยอย่างยิ่ง เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันและลดความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร แก๊สรั่ว หรืออุบัติเหตุจากการทำอาหาร

เหตุผลที่ผ้ากันไฟจำเป็นต่อที่อยู่อาศัย

ป้องกันการลุกลามของไฟ: ผ้ากันไฟสามารถใช้คลุมแหล่งกำเนิดไฟ หรือใช้กั้นพื้นที่เพื่อป้องกันไฟลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้าน
ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน: การใช้ผ้ากันไฟช่วยลดความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และทรัพย์สินอื่นๆ ในบ้าน
เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย: ผ้ากันไฟช่วยให้มีเวลาในการอพยพออกจากบ้านได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
ใช้ดับไฟขนาดเล็ก: ผ้ากันไฟสามารถใช้ดับไฟขนาดเล็กที่เกิดจากน้ำมัน หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าได้

สถานที่ที่ควรมีผ้ากันไฟในบ้าน

ห้องครัว: เป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟไหม้ ควรมีผ้ากันไฟไว้ใกล้เตาแก๊ส หรือเตาอบ
ห้องนั่งเล่น: หากมีเตาผิง ควรมีผ้ากันไฟไว้ใกล้เตาผิง เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟ
ห้องนอน: ควรมีผ้ากันไฟไว้ในห้องนอน เพื่อใช้คลุมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความร้อนสูง เช่น เตารีด หรือเครื่องทำความร้อน
โรงจอดรถ: หากมีโรงจอดรถ ควรมีผ้ากันไฟไว้ในโรงจอดรถ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน

คำแนะนำเพิ่มเติม
ควรมีผ้ากันไฟติดบ้านไว้อย่างน้อย 1 ผืน และเก็บไว้ในที่ที่เข้าถึงได้ง่าย
ควรฝึกซ้อมการใช้ผ้ากันไฟ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
ควรเลือกซื้อผ้ากันไฟที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน

14
อาหารสายยาง อาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง

ปัจจุบันอาหารมีอยู่หลากหลายประเภทที่เลือกใช้ แต่ในทางการแพทย์อาหารแบ่งออกเป็นหลายชนิดๆหลักๆ ได้แก่ อาหารธรรมดา อาหารอ่อน อาหารเหลว และที่เราจะมาพูดถึงวันนี้คืออาหารปั่นผสม หรือที่เรียกกันอีกชื่อคืออาหารทางการแพทย์ ซึ่งอาหารทางการแพทย์นั้นมักจะแบ่งสรรตามโรคเฉพาะทางที่เป็น เนื่องจากว่าแต่ละโรคมีความต้องการและไม่ต้องการจากสารอาหารที่แตกต่างกัน โรคบางชนิดต้องการให้รับสารอาหารบางชนิดอย่างมาก และโรคบางชนิดไม่สามารถรับสารอาหารบางชนิดได้เนื่องจากอาจทำให้มีผลต่อการดำเนินของโรคให้แย่ลง อาหารทางการแพทย์ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ในการรักษาโรค แต่จะสามารถช่วยในการป้องกันปัญหาที่เกิดจากโรคหรือช่วยจัดการเกี่ยวกับโรคได้ง่ายขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงเมื่อใช้ ปัจจุบันหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด และมีเภสัชคอยให้คำปรึกษา

วันนี้เราจะมาพูดถึงอาหารทางการแพทย์ที่ใช้กับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากว่าโรคมะเร็งเกิดจากหลายปัจจัยซึ่ง อาหารที่รับประทานทุกวันอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคนี้ได้ แต่ในขณะเดียวกันการรับประทานที่พอเมาะ ก็สามารถช่วยลดอาการทรุดของสุขภาพผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยโรคมะเร็งมักมีความกังวลทางด้านจิตใจ ประกอบกับการรักษาทางการแพทย์ ได้แก่ การผ่าตัด รังสีรักษา หรือ การให้ยาเคมีบำบัด อาจส่งผลข้างเคียง ทำให้เกิดปัญหาทางโภชนาการ สุขภาพร่างกายทรุดลง ดังนั้น การได้รับพลังงานและสารอาหารที่เพียงพอและเหมาะสมกับสภาวะของร่างกายจะส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็ง

อาหารในผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้นจะถูกแบ่งออกตามความสามารถในการรับประทานอาหารของผู้ป่วย โดยอาหารเสริม จะถูกพิจารณาใช้ในกรณีที่ร่างกายได้รับสารอาหารจากอาหารหลักไม่ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายสำหรับการรับประทานอาหารเพื่อดำรงชีวิต ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะถูกพิจารณาใช้ในการรับประทาน ในกรณีที่ผู้ใช้ มีจุดประสงค์เฉพาะ ที่ต้องการจากประโยชน์ของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้น ๆ ซึ่งอาหารทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยมะเร็งมีดังนี้ อาหารครบถ้วน มีส่วนประกอบของสารอาหารครบถ้วนตามความต้องการของร่างกาย และอาหารเฉพาะโรค มีการดัดแปลงส่วนประกอบอาหารให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเฉพาะโรค ที่มีจำกัดเฉพาะบางสารอาหาร และสุดท้ายสารอาหารเพียงประเภทเดียว ใช้เมื่อต้องทำอาหารตามคำสั่งโดยการผสมสารอาหารแต่ละอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ป่วยมากที่สุด

ในการดูแลผู้ป่วย การได้รับสารอาหารที่ดี มีประโยชน์แก่ร่างกายจะช่วยบรรเทาและฟื้นฟูภาวะโภชนาการในผู้ป่วยมะเร็งได้ดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันที่เป็นระบบที่จำเป็นจะต้องเสริมสร้างให้แข็งแรง เป็นสารอาหารที่จะช่วยเหลือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ โดยหวังผลที่จะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดีขึ้น สารอาหารที่ได้รับจากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริม ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น เมื่อผู้ป่วยได้สารอาหารที่ครบถ้วนจากการรับประทานอาหารทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันช่วยในการต้านและลดอาการอักเสบ ทั้งนี้อยากสนับสนุนให้ผู้ป่วยมะเร็งได้รับอาหารที่ถูกต้องตามหลักความปลอดภัย สะอาดที่สุดสำหรับผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยได้มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถฟื้นฟูจากอาการป่วยได้อย่างรวดเร็ว

15
หมอประจำบ้าน: ไมเกรน (Migraine)

ไมเกรน (โรคปวดหัวข้างเดียว ลมตะกัง ก็เรียก) พบได้ประมาณร้อยละ 10-15 ของประชากรทั่วไป พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในช่วงอายุ 10-30 ปี พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 3.5 เท่า

โรคนี้มักเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรังเป็นแรมปี เริ่มเป็นครั้งแรกตอนย่างเข้าวัยรุ่น หรือระยะหนุ่มสาว โดยเฉพาะผู้ป่วยหญิงมักเป็นโรคนี้ตอนเริ่มมีประจำเดือน บางรายเริ่มเป็นโรคนี้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งมักมีอาการปวดท้อง เมารถเมาเรือด้วย มีน้อยรายที่จะมีอาการเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ผู้หญิงที่เคยเป็นไมเกรนมาก่อนเมื่อถึงวัยใกล้หมดประจำเดือน (40-50 ปี) อาจมีอาการปวดศีรษะบ่อยขึ้น บางรายอาจทุเลาหรือหายไปเองเมื่ออายุมากกว่า 50-60 ปีขึ้นไป แต่บางรายอาจเป็นตลอดชีวิต

ไมเกรนจัดว่าเป็นโรคที่ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่สร้างความรำคาญน่าทรมาน และทำให้เสียการเสียงาน

โรคนี้เกิดได้กับคนทุกระดับ ไม่เกี่ยวกับฐานะทางสังคมหรือระดับสติปัญญา แต่ผู้ป่วยที่มีฐานะดีหรือมีการศึกษาดีมักจะปรึกษาแพทย์บ่อยกว่า ผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่เป็นประจำ มักเป็นคนประเภทเจ้าระเบียบ จู้จี้จุกจิก

สาเหตุ

โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ (พบว่าประมาณ 2 ใน 3 ของผู้ป่วยไมเกรน มีประวัติว่ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย) และมักมีสาเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบในแต่ละครั้ง

ส่วนกลไกการเกิดอาการของโรคยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่ามีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของสมอง ทั้งในส่วนเปลือกสมอง (cortex) และก้านสมอง (brain stem) ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง ได้แก่ ซีโรโทนิน (serotonin พบว่ามีปริมาณลดลงขณะที่มีอาการกำเริบ) โดพามีน (dopamine) และสารเคมีกลุ่มอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเส้นใยประสาทสมองเส้นที่ 5 (trigeminal nerve fiber ที่เลี้ยงบริเวณใบหน้าและศีรษะ) รวมทั้งการอักเสบร่วมกับการหดและขยายตัวของหลอดเลือดแดงทั้งในและนอกกะโหลกศีรษะ ทำให้เปลือกสมอง (cortex) มีเลือดไปเลี้ยงน้อยลง กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะและอาการร่วมต่าง ๆ ขึ้นมา

สาเหตุกระตุ้น

ผู้ป่วยมักบอกได้ว่า มีสาเหตุต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ ซึ่งแต่ละคนอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป แต่มักจะมีได้หลาย ๆ อย่าง ได้แก่

1. สิ่งกระตุ้นทางตา อาทิ

    มีแสงสว่างจ้าเข้าตา เช่น ออกกลางแดดจ้า ๆ แสงจ้า แสงไฟกะพริบ แสงสีระยิบระยับในโรงมหรสพหรือสถานเริงรมย์ เป็นต้น
    การใช้สายตาเพ่งดูอะไรนาน ๆ เช่น ดูภาพยนตร์ หนังสือ จอคอมพิวเตอร์ หรือกล้องจุลทรรศน์ เย็บปักถักร้อย เป็นต้น

2. กระตุ้นทางหู อาทิ

    การอยู่ในที่ที่มีเสียงดังจอแจ เช่น ตลาดนัด หรือเสียงอึกทึก (เช่น เสียงกลอง เสียงระฆัง)

3. สิ่งกระตุ้นทางจมูก อาทิ

    การสูดดมกลิ่นฉุน ๆ เช่น กลิ่นน้ำมันรถ กลิ่นสีหรือทินเนอร์ กลิ่นสารเคมี หรือยาฆ่าแมลง ควันบุหรี่ กลิ่นน้ำหอมหรือดอกไม้ เป็นต้น

4. สิ่งกระตุ้นทางลิ้น (อาหารและยา) อาทิ

    การดื่มกาแฟมาก ๆ ก็อาจกระตุ้นให้ปวดได้ (แต่บางคนดื่มกาแฟแล้วอาการทุเลา หรือขาดกาแฟกลับทำให้ปวดไมเกรน)
    เหล้า เบียร์ เหล้าองุ่นแดง (red wine) ถั่วต่าง ๆ กล้วย นมเปรี้ยว เนยแข็ง ช็อกโกแลต ตับไก่ ไส้กรอก อาหารทะเล อาหารทอดน้ำมัน อาหารหมักดองหรือรมควัน ผงชูรส น้ำตาลเทียม (aspartame) สารกันบูด ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว (เช่น ส้ม มะนาว) หอม กระเทียม ล้วนกระตุ้นทำให้ปวดได้
    ยานอนหลับ ยาขยายหลอดเลือด (เช่น ไนโตรกลีเซอรีน) ยาลดความดัน (เช่น ไฮดราลาซีน รีเซอร์พีน) ยาขับปัสสาวะ

5. สิ่งกระตุ้นทางกาย (กายภาพ) อาทิ

    การอยู่ในที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เช่น อากาศร้อนหรือหนาวจัด ห้องที่อบอ้าว ห้องปรับอากาศเย็นจัด อากาศเปลี่ยนแปลง เป็นต้น
    การอดนอน (นอนไม่พอ) หรือนอนมากเกินไป การนอนตื่นสาย (เช่น ในวันหยุดสุดสัปดาห์)
    การอดข้าว กินข้าวผิดเวลา หรือกินอิ่มจัด เชื่อว่าเกี่ยวกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) ซึ่งกระตุ้นให้ปวดศีรษะได้ บางครั้งพบว่าผู้ป่วยไมเกรนเมื่อเป็นโรคเบาหวาน (มีน้ำตาลในเลือดสูง) อาการปวดจะหายไป
    การนั่งรถ นั่งเรือ หรือนั่งเครื่องบิน
    การเปลี่ยนแปลงของระดับความสูงหรือความดันบรรยากาศ
    อาการเจ็บปวดตามส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
    การเป็นไข้ เช่น ตัวร้อนจากไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่
    การออกกำลังกายจนเหนื่อยเกินไป รวมทั้งการร่วมเพศ
    ร่างกายเหนื่อยล้า
    การถูกกระแทกแรง ๆ ที่ศีรษะ (เช่น การใช้ศีรษะโหม่งฟุตบอล) ก็อาจทำให้ปวดศีรษะทันที
    อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ สำหรับผู้ป่วยหญิงมีผลต่อการเกิดอาการไมเกรนอย่างมาก เช่น บางรายมีอาการปวดเฉพาะเวลาใกล้จะมีหรือขณะมีประจำเดือน บางรายในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ก็อาจทำให้อาการกำเริบมากขึ้น เมื่อเลยระยะ 3 เดือนไปแล้ว อาการมักจะหายไปจนกระทั่งหลังคลอด (ในระยะ 6 เดือนหลังของการตั้งครรภ์มักมีฮอร์โมนโพรเจสเทอโรนสูง) บางรายกินยาเม็ดคุมกำเนิด (มีฮอร์โมนเอสโทรเจน) ทำให้ปวดบ่อยขึ้น พอหยุดกินยาก็ดีขึ้น หรือฉีดยาคุมกำเนิดอาการมักจะทุเลา

6. สิ่งกระตุ้นทางใจ (อารมณ์) อาทิ

ความเครียดทางอารมณ์ คิดมาก อารมณ์ขุ่นมัว ตื่นเต้น ตกใจ
สาเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการไมเกรน

อาการ

มักมีอาการกำเริบเป็นครั้งคราว ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดแบบตุบ ๆ (เข้ากับจังหวะการเต้นของหัวใจ) ที่บริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง อาจปวดสลับข้างในแต่ละครั้ง ส่วนน้อยจะปวดพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง บางรายอาจมีอาการปวดที่รอบ ๆ กระบอกตาร่วมด้วย แต่ละครั้งมักจะปวดนาน 4-72 ชั่วโมง และจะปวดมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวของร่างกาย หรือสัมผัสถูกแสง เสียง หรือกลิ่น มักปวดรุนแรงปานกลางถึงมากจนเป็นอุปสรรคต่อการทำกิจวัตรประจำวัน ผู้ป่วยมักมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย และบางรายอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย (หลังอาเจียนอาการปวดจะค่อย ๆ ทุเลาไปเอง) ผู้ป่วยมักมีอาการกลัว (ไม่ชอบ) แสงหรือเสียงร่วมด้วย ชอบอยู่ในห้องที่มืดและเงียบ นอกจากนี้ยังอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตาพร่ามัว คัดจมูก ท้องเดิน ปัสสาวะออกมาก ซีด เหงื่อออก บวมที่หนังศีรษะหรือใบหน้า เจ็บหนังศีรษะ มีเส้นพองที่ขมับ ขาดสมาธิ อารมณ์แปรปรวน รู้สึกศีรษะโหวง ๆ รู้สึกจะเป็นลม แขนขาเย็น เป็นต้น

บางรายอาจมีอาการเวียนศีรษะ หรือบ้านหมุน โดยอาจมีหรือไม่มีอาการปวดศีรษะร่วมด้วยก็ได้*

บางรายก่อนมีอาการปวดศีรษะ อาจมีสัญญาณบอกเหตุ (aura)** ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาการผิดปกติเกี่ยวกับสายตา เช่น เห็นแสงวอบแวบหรือระยิบระยับ เห็นเป็นเส้นหยัก ภาพเบี้ยว ภาพเล็กหรือใหญ่เกินจริง หรือเห็นดวงมืดในลานสายตา ซึ่งจะค่อย ๆ เป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลา 5-20 นาที และมักจะเป็นอยู่นานไม่เกิน 60 นาที

ส่วนน้อยอาจมีสัญญาณบอกเหตุในลักษณะอื่น ๆ เช่น มีความรู้สึกสัมผัสเพี้ยน (รู้สึกเสียวแปลบ ๆ เหมือนถูกเข็ม หรือเหมือนมีตัวอะไรไต่) ที่มือและแขน รอบปากและจมูกข้างใดข้างหนึ่ง ชาที่ใบหน้าและแขนขา มีความรู้สึกไวต่อการสัมผัส พูดไม่ได้หรือพูดลำบาก บ้านหมุน มีเสียงหลอนหรือกลิ่นหลอน เห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรง*** อาการเหล่านี้มักเป็นเพียงชั่วขณะแล้วทุเลาไปได้เอง

อาการปวดศีรษะ มักเกิดขึ้นภายใน 60 นาที (บางครั้งหลายชั่วโมง) หลังสัญญาณบอกเหตุทุเลาลงแล้ว

บางรายสัญญาณบอกเหตุอาจเป็นต่อเนื่อง แม้ภายหลังมีอาการปวดศีรษะเกิดขึ้นแล้ว

บางรายอาจมีสัญญาณบอกเหตุโดยไม่มีอาการปวดตุบ ๆ แบบไมเกรนตามมา หรือมีอาการปวดศีรษะในลักษณะแตกต่างจากไมเกรน (เช่น ปวดมึน ปวดตื้อ) ตามมาก็ได้

นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการผิดปกติล่วงหน้าหรือตามหลังระยะปวดไมเกรน

อาการผิดปกติล่วงหน้า (prodome) อาจเกิดก่อนปวดศีรษะเป็นชั่วโมง ๆ หรือเป็นวัน ๆ เช่น อารมณ์แปรปรวน (หงุดหงิด ซึมเศร้า หรือครึ้มใจ) อ่อนเพลีย หาวบ่อย ง่วงนอนมาก รู้สึกอยากอาหารบางชนิด (เช่น ช็อกโกแลต ของหวาน) กล้ามเนื้อตึง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คอ) ท้องผูกหรือท้องเดิน ปัสสาวะออกมาก

ส่วนอาการผิดปกติที่อาจพบภายหลังหายปวดศีรษะแล้ว (postdome) เช่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด เฉยเมย ขาดสมาธิ เจ็บหนังศีรษะ อารมณ์แปรปรวน รู้สึกศีรษะโหวง ๆ กลัวแสง เบื่ออาหาร เป็นต้น

ในเด็กมักมีอาการคล้ายดังกล่าวข้างต้น แต่มักจะปวดขมับพร้อมกัน 2 ข้าง และปวดนานน้อยกว่าผู้ใหญ่ (นานประมาณ 1-48 ชั่วโมง) ไม่ค่อยมีสัญญาณบอกเหตุทางตา (อาการผิดปกติทางสายตา) แต่มักมีอาการผิดปกติล่วงหน้า เช่น หาวบ่อย ง่วงนานมากหรือเฉยเมย มีความรู้สึกอยากอาหารบางชนิด (เช่น ช็อกโกแลต ของหวาน นมเปรี้ยว กล้วย)

เด็กบางคนอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง กลัวแสง กลัวเสียง โดยไม่มีอาการปวดศีรษะก็ได้ (เมื่อโตขึ้นก็จะมีอาการปวดศีรษะไมเกรน)

 *ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเวียนศีรษะ หรือบ้านหมุนเป็นสำคัญ ซึ่งมักเป็นอยู่นานเป็น 5 นาทีจนถึง 72 ชั่วโมง โดยอาจมีอาการก่อนหรือหลัง หรือเป็นพร้อมกันกับอาการปวดศีรษะ หรืออาจไม่มีอาการปวดศีรษะเลยก็ได้ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีความรู้สึกโคลงเคลง เสียการทรงตัว สับสน หูตึงหรือได้ยินไม่ชัด หูอื้อหรือมีเสียงในหู หรือกลัวแสง กลัวเสียง (แสงเสียงจะกระตุ้นให้อาการกำเริบหนัก) ร่วมด้วย มักเกิดขึ้นเมื่อหันศีรษะเร็ว นั่งยานพาหนะหรือเครื่องเล่น อยู่ในฝูงชนแออัด สับสนอลหม่าน หรือดูสิ่งที่เคลื่อนไหว (เช่น รถแล่น คนเดิน) หรือภาพเคลื่อนไหว (ภาพยนตร์ โทรทัศน์) และอาจมีสาเหตุกระตุ้นอื่น ๆ แบบที่กระตุ้นให้มีอาการปวดศีรษะในผู้ป่วยไมเกรน ผู้ป่วยมักมีประวัติโรคไมเกรนในครอบครัว มีประวัติปวดศีรษะจากโรคไมเกรน หรือมีอาการเมารถเมาเรือบ่อย ๆ มาก่อน ไมเกรนชนิดนี้ เรียกว่า "ไมเกรนชนิดเวียนศีรษะ" ("vestibular migraine" "migraine- associated vertigo" "migrainous vertigo" หรือ "migraine-related vestibulopathy") สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติเกี่ยวกับหูชั้นใน (ซึ่งทำหน้าที่ด้านการได้ยินและการทรงตัว) พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 5 เท่า มักพบในคนอายุราว ๆ 40 ปี แต่ก็อาจพบในคนอายุน้อยก็ได้

การรักษา ให้ยาบรรเทาตามอาการ อาทิ ยาแก้ปวด (เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน) ยาแก้เวียนศีรษะ บ้านหมุน (เช่น ไดเมนไฮดริเนต) ในรายที่เป็นบ่อยหรือกระทบต่อการดำเนินชีวิต แพทย์ก็จะให้ยาป้องกันแบบที่ใช้กับโรคไมเกรน

**ผู้ป่วยไมเกรนส่วนใหญ่ มักจะไม่มีสัญญาณบอกเหตุนำมาก่อน เรียกว่า ไมเกรนชนิดไม่มีสัญญาณบอกเหตุ (migraine without aura) เดิมเรียกว่า ไมเกรนชนิดสามัญ (common migraine) มีเพียงร้อยละ 20-30 ของผู้ป่วยไมเกรนที่จะมีสัญญาณบอกเหตุนำมาก่อน เรียกว่า ไมเกรนชนิดมีสัญญาณบอกเหตุ (migraine with aura) เดิมเรียกว่า ไมเกรนชนิดตรงต้นแบบ (classical migraine) ผู้ป่วยที่เคยมีสัญญาณบอกเหตุต่อไปอาจมีอาการปวดไมเกรนโดยไม่มีสัญญาณบอกเหตุก็ได้

***อาการแขนขาอ่อนแรงจะเป็นเพียงชั่วคราว และฟื้นหายเป็นปกติได้เอง เกิดจากสมองส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วขณะ ซึ่งพบในผู้ที่เป็นไมเกรนชนิดที่พบได้น้อย ได้แก่
- ไมเกรนชนิดแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก (hemiplegic migraine) พบในเด็กและคนอายุต่ำกว่า 20 ปี มักมีประวัติโรคไมเกรนชนิดนี้ในครอบครัว เมื่อมีอาการกำเริบ จะมีอาการแขนและขาซีกหนึ่งอ่อนแรง อาจสลับข้างในการกำเริบแต่ละครั้ง อาการอาจเป็นอยู่นานประมาณ 5-60 นาที บางรายอาจนานถึง 24 ชั่วโมง และอาจมีอาการชา ตาพร่า เดินเซ ชัก หรือหมดสติร่วมด้วย
- ไมเกรนชนิดก้านสมองขาดเลือด (basilar migraine) พบบ่อยในหญิงวัยรุ่น เกิดจากก้านสมอง (brain stem) ขาดเลือดไปเลี้ยงชั่วขณะ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดไมเกรน ร่วมกับอาการบ้านหมุน พูดลำบาก เห็นภาพซ้อน สับสน เป็นลม หมดสติ แขนขาอ่อนแรงทั้ง 4 ข้าง ซึ่งจะเป็นนานประมาณ 20-30 นาที บางรายอาจนานหลายวัน

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่จะเป็น ๆ หาย ๆ เป็นช่วง ๆ โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง นอกจากอาจทำให้มีความวิตกกังวลหรือซึมเศร้า

บางรายอาจมีอาการปวดไมเกรนต่อเนื่อง (status migrainosus) คือปวดติดต่อกันนานเกิน 72 ชั่วโมง หรืออาจเป็นไมเกรนเรื้อรัง (chronic migraine) คือปวดมากกว่า 15 วัน/เดือน

โรคไมเกรนเรื้อรัง มักจะสัมพันธ์กับโรควิตกกังวล โรคแพนิก โรคอารมณ์แปรปรวนหรือซึมเศร้า มีภาวะเครียด หรือมีการใช้ยาแก้ปวดไมเกรนมากเกินไป (มากกว่า 2-3 ครั้ง/สัปดาห์)

มีน้อยรายมากที่อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองจากภาวะขาดเลือดแทรกซ้อน ซึ่งมักพบในผู้หญิงที่เป็นไมเกรนชนิดมีสัญญาณบอกเหตุ (aura) ที่มีประวัติสูบบุหรี่ และ/หรือกินยาเม็ดคุมกำเนิด

นอกจากนี้ ผู้ป่วยไมเกรนยังอาจมีภาวะอื่น ๆ ร่วมด้วยมากกว่าผู้ที่ไม่ได้เป็นไมเกรน เช่น โรคลมชัก ภาวะไขมันในเลือดผิดปกติจากกรรมพันธุ์ โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคลำไส้แปรปรวน ความดันโลหิตสูง โรค

หน้า: [1] 2 3 ... 43
ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว ลงโฆษณาฟรี google